ทำไมเคอร์รี่ติดท็อป 10 แต่ดูแรนต์อาจยังไม่ถึง

กรณีของสตีเฟน เคอร์รี่: มากกว่าการยิงสามแต้ม

เรามาเริ่มด้วยสิ่งที่เห็นชัดเจน: สตีเฟน เคอร์รี่ไม่ได้แค่เปลี่ยนเกม เขาเขียนกฎใหม่ให้วงการบาส จากข้อมูล เราตื่นเต้นกับสถิติอาชีพของเขาที่ท้าทายการวิเคราะห์แบบเดิม:

• 4 แชมป์ NBA (2 สมัยในฐานะตัวหลักของทีม)
• 2 รางวัล MVP (รวมถึงผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้คะแนนเสียงเอกฉันท์)
• ราชายิงสามแต้มตลอดกาลของ NBA (ด้วยเปอร์เซ็นต์การยิงถึง 42.8% - น่าทึ่งมาก!)

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากดูแรนต์คือ แรงดึงดูดต่อการป้องกัน คู่แข่งต้องเฝ้าเขาตั้งแต่ก่อนเกินครึ่งสนาม ทำให้เกิดพื้นที่ว่างให้เพื่อนร่วมทีมเสมอแม้เขาไม่มีบอล จากข้อมูล Opta การเคลื่อนไหวแบบไม่มีบอลของเขาทำให้ทีมได้แต้มเพิ่ม +5.2 ต่อเกม สูงที่สุดสำหรับกองหลังในประวัติศาสตร์

ความเก่งกาจของ KD vs คำถามเรื่องมรดก

ส่วนเควิน ดูแรนต์ นักยิงเลือดเย็นร่างสูง 7 ฟุตที่ยิงแต้มได้เมื่อไหร่ก็ได้ (4 สมัยแชมป์得分王, 50/40/90 seasons) จากสถิติแล้วเขาแข็งแกร่งมาก แต่มรดกไม่ใช่แค่ตัวเลขในกระดาน:

• แชมป์ NBA: ทั้งคู่มี 4 แหวน แต่แชมป์ปี 2015 และ 2022 ของเคอร์รี่มีน้ำหนักกว่าในฐานะหัวหอกหลัก
• ผลกระทบต่อทีม: ระบบของโกลเด้นสเตทยังคงแข็งแกร่งโดยไม่มี KD (ดูจากแชมป์ปี 2022) ในขณะที่เส้นทางหลังจากทีมอีฟส์ดูเหมือนเป็นการซื้อขายมากกว่า

อย่างที่ดูลิ่งกล่าวไว้ ท็อป 15? อาจจะ แต่การจะอยู่ในระดับ MJ/LeBron/Kareem ต้องสร้างความโดดเด่นทางเรื่องเล่าเหมือนที่เคอร์รี่ทำได้ในฤดูกาล MVP ปี 2016 และผลกระทบทางวัฒนธรรม

แมจิก vs สเตฟ: ปริศนายากองหลัง

“ยอดนักเบสที่สองตลอดกาล” เป็นคำกล่าวที่กล้าแต่พิสูจน์ได้ แมจิกมีความสูงและความสวยงาม แต่การยิงของเคอร์รี่ทำให้ทีมต่างๆ ต้องทิ้งแผนป้องกันแบบเดิมๆ ที่ใช้มาหลายสิบปี จากโมเดล Python ของเรา เขาอันดับสูงกว่าใน:

1. Playoff win shares per 48 (0.230 เทียบกับ 0.225 ของแมจิก)
2. Clutch-time EFG% (58.3% ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย จากข้อมูล NBA Advanced Stats)

อย่างไรก็ตาม แหวนทั้ง 5 ของแมจิกยังคงเป็นเงาต่างๆ แต่ถ้าเป็นประวัติศาสตร์เคอร์รี่นั้นชัดเจนว่าเขาคือท็อป10